22 มีนาคม 2552

ถูกชนแล้วหนี ทำไมจึงเป็นฝ่ายผิด

เรื่องนี้ว่าไปแล้วก็น่าเจ็บใจเป็นที่สุดครับ หลายท่านอาจเคยมีประสบการณ์คล้ายๆกันคือ จอดรถเอาไว้ ไปทำธุระ กลับมาปรากฎว่า รถถูกชน ไอ้คนเลวที่ขับรถชนเรามันหนีไปเสียแล้ว ไม่มีใครรู้ว่ารถคู่กรณีเป็นรถยี่ห้ออะไร รุ่นไหน หรือรู้ก็จำทะเบียนรถไม่ได้

หลังจากเกิดเหตุ เราก็ต้องไปแจ้งประกัน แต่พอเล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเคลม (หรือ ฝ่ายสินไหม) ฟังเรียบร้อย เขาก็บอกว่ากรณีอย่างนี้เขาต้องดำเนินการเหมือนกับเราเป็นฝ่ายผิด เนื่องจากไม่มีคู่กรณี ถ้าใครไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน หรือไม่เข้าใจเหตุผลก็อาจจะหัวเสียไปหลายวันเลยครับ

ทีนี้ถ้าเราลองใจเย็นๆ ทำใจเป็นกลาง ลองมายืนอยู่ในมุมมองของฝ่ายบริษัทประกันดูบ้างครับ สมมุติว่าเราเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินไหม มีลูกค้ามาเรียกร้องว่ารถถูกชนท้าย แล้วคู่กรณีหนีไปไม่รู้ว่าเป็นใคร เราจะพิสูจน์ได้อย่างไรครับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ลูกค้าที่มาแจ้งเราอาจเล่าเรื่องจริง แต่จริงไม่ทั้งหมดก็ได้ครับ เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยากมาก เช่น รถของลูกค้าอาจถูกรถคันอื่นชนท้ายจริง แต่อาจไม่ได้หนีก็ได้ โดยลูกค้าได้เรียกร้องค่าเสียหายจากรถที่มาชนเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นค่อยไปแจ้งประกันว่าถูกชนแล้วหนี เหตุการณ์อย่างนี้มีเกิดขึ้นจริง และเคยเกิดขึ้นกับรถเช่าของเพียวคาร์เร้นท์ด้วย

สรุบได้ว่า การเกิดอุบัติเหตุ หรือการเสียหายกับรถโดยไม่มีคู่กรณี บริษัทประกันก็จะดำเนินการเหมือนกับเราเป็นฝ่ายผิด ซี่งเป็นเหตุให้รถเสียประวัติ และต้องเสียค่าความเสียหายส่วนแรกด้วย (ถ้ากรมธรรม์ระบุไว้)

การจอดรถให้ถูกกฎจราจร ไม่จอดใกล้ทางโค้ง จะช่วยลดโอกาสที่จะถูกชนได้มากครับ กันไว้ดีกว่าแก้ครับ


ข้อมูลโดย เพียวคาร์เร้นท์ (Pure Car Rent)
เว็บไซต์ http://www.purecarrent.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น