13 เมษายน 2552

เช่ารถ ทำไมมีการจำกัดระยะทางการใช้

การเช่ารถ แล้วมีการจำกัดระยะทางการใช้ต่อวันนั้นขึ้นอยู่กับระเบียบปฏิบัติของบริษัทรถเช่าแต่ละที่ครับ บางที่ก็มีการจำกัด บางที่ก็ไม่มีการจำกัดระยะทางการใช้งาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับราคาค่าเช่ารถด้วย

ถ้าถามว่าทำไมต้องมีการจำกัดระยะทางการใช้ต่อวันด้วย หลายๆคนเคยถามผมว่าจ่ายค่าเช่ารถแล้ว ก็น่าจะให้ใช้รถเท่าไหร่ก็ได้ อันนี้ก็เป็นมุมมองหนึ่งครับ แต่ถ้าคิดในแง่ของความเป็นจริง ทุกอย่างมีต้นทุนครับ รถเช่าหนี่งคันก็มีต้นทุนของมัน ผมจะยกตัวอย่างง่ายๆของการคิดต้นทุนรถเช่า เช่น

- ค่าเสื่อม รถหนึ่งคันที่ซื้อมา พอใช้ไปสักระยะแล้ว เวลาเอารถไปขาย ก็ไม่สามารถขายได้ราคาเท่าเดิม อันนี้คือค่าเสื่อมครับ ยกตัวอย่างเป็นตัวเลขง่ายๆ สมมุติว่าเราซื่อรถมา 550,000 บาท ใช้รถไป 5-6 ปี ระยะทางใช้ไป 150,000 กม. เวลาขายรถก็น่าจะขายรถได้ประมาณ 200,000 - 250,000 บาท ถ้าเราลองคิดง่ายๆ ก็เท่ากับแต่ละกิโลเมตรที่รถวิ่ง เท่ากับเราเสียเงินประมาณ 2 บาท/กม.

- ค่าสึกหรอ และค่าซ่อมบำรุงตามระยะทาง แน่นอนครับทุกๆระยะ 5,000 หรือ 10,000 กม.ที่ใช้รถไป ก็ต้องมีการซ่อมบำรุง และเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นต่างๆ อีกทั้งยังต้องมี ยางรถยนต์ ผ้าเบรก แบตเตอรี่ และอื่นๆที่ต้องซ่อมบำรุงตามระยะเวลา หรือระยะทางที่รถวิ่ง

ถ้าแจกแจงออกมาเราก็จะรู้ว่าทุกๆระยะทาง หรือทุกๆกิโลเมตรที่รถยนต์วิ่งไป ก็คือค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าบริหารจัดการ เช่น ค่าแรงพนักงาน ค่าเช่าสำนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และจิปาถะ

ค่าใช้จ่ายที่ยกมาทั้งหมดก็คือต้นทุนครับ ทีนี้ถ้ารู้แล้วว่ามีต้นทุนอย่างไร การที่จะให้ใช้รถเช่าโดยไม่มีข้อจำกัดเลยคงเป็นไปไม่ได้ ยกเว้นบริษัทรถเช่าบางที่ก็ได้คิดค่าเช่าเผื่อต้นทุนส่วนนี้ไว้แล้ว ซึ่งก็อาจเป็นผลให้ค่าเช่ารถแพงขึ้นครับ

ถ้าผมเปรียบเทียบง่ายๆกับร้านอาหาร ซึ่งปัจจุบันมีหลายร้านที่ให้บริการแบบบุฟเฟ่ต์ ร้านอาหารเหล่านี้ก็จะต้องตั้งราคาเผื่อเอาไว้ก่อน และอาจมีกฎ ข้อจำกัดเรื่องเวลาในการรับประทาน หรือห้ามรับประทานเหลือ เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าใช้จ่ายเกินต้นทุนที่คำนวณเอาไว้ และแน่นอน ราคาในการรับประทานต่อหัวของร้านแบบบุฟเฟ่ต์ก็มักจะสูงกว่าราคาอาหาร 1-2 จานของร้านอาหราทั่วไป เพราะเขาก็ต้องตั้งราคาเผื่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

สำหรับที่เพียวคาร์เร้นท์ เราจะมีการจำกัดระยะทางการใช้เฉพาะในกรณีระยะเวลาการเช่าน้อยๆไม่กี่วัน ถ้าเช่าหลายๆวัน เราก็มักจะไม่จำกัดเพื่อความสบายใจของลูกค้า เพราะจะไม่คุ้มค่าเช่าแน่ๆครับ ถ้าลูกค้าเช่ารถ 1-2 วัน แล้วลูกค้าขับรถจากภูเก็ตไปกรุงเทพ ต้องใช้รถไม่น้อยกว่า 1,800 - 2,000 กม. เห็นชัดๆว่าถ้าให้เช่าไปในราคาปกติ ต้องขาดทุนแน่ๆครับ

ก็เป็นอีกบทความที่ผมคิดว่าผู้อ่านน่าจะได้ประโยชน์ และเข้าใจการคิดต้นทุนในการทำธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจรถเช่า

ข้อมูลโดย เพียวคาร์เร้นท์ (Pure Car Rent)
เว็บไซต์ http://www.purecarrent.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น